กราฟิกแบบ Raster หรือแบบ Bitmap เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการเรียงตัวกันของจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ หลากหลายสี ซึ่งเรียกจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้ว่า พิกเซล (Pixel) ในการสร้างภาพกราฟิกแบบ Raster จะต้องกำหนดจำนวนพิกเซลให้กับภาพที่ต้องการสร้าง ถ้ากำหนดจำนวนพิกเซลน้อย เมื่อขยายภาพให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้มองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ หรือถ้าจำนวนพิกเซลมากก็จะทำให้แฟ้มภาพมีขนาดใหญ่ ดังนั้นการกำหนดจำนวนพิกเซลจึงควรกำหนดให้เหมาะกับงานที่สร้าง คือ
กราฟิกแบบ Vector เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการคำนวณ ซึ่งภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง รูปทรง เมื่อมีการขยายภาพความละเอียดของภาพไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster กราฟิกแบบ Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัตย์ตกแต่งภายในและการออกแบบต่างๆ เช่น การออกแบบอาคาร การออกแบบรถยนต์ การสร้างโลโก้ การสร้างการ์ตูน เป็นต้น โปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพแบบ Vector คือ โปรแกรม Illustrator, CorelDraw, AutoCAD, 3Ds mas เป็นต้น แต่อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลภาพ เช่น จอคอมพิวเตอร์หรือเครื่องพิมพ์จะเป็นการแสดงผลภาพเป็นแบบ Raster
☀ ถ้าต้องการใช้งานทั่วๆ ไป จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 100-150 ppi (Pixel/inch) “จำนวนพิกเซลต่อ 1 ตารางนิ้ว”
☀ ถ้าเป็นงานที่ต้องการความละเอียดน้อย และแฟ้มภาพมีขนาดเล็ก เช่น ภาพสำหรับใช้กับเว็บไซต์จะกำหนดจำนวนพิกเซลประมาณ 72 ppi (Pixel/inch)
☀ ถ้าเป็นงานพิมพ์ เช่น นิตยสาร โปสเตอร์ขนาดใหญ่ จำนวนพิกเซลประมาณ 300-350 ppi (Pixel/inch)
ข้อดี ของภาพกราฟิกแบบ Raster คือสามารถแก้ไขปรับแต่งสี ตกแต่งภาพได้ง่ายและสวยงาม ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพกราฟิกแบบ Raster คือ Adobe PhotoshopCS , Paint
ข้อดี ของภาพกราฟิกแบบ Raster คือสามารถแก้ไขปรับแต่งสี ตกแต่งภาพได้ง่ายและสวยงาม ซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพกราฟิกแบบ Raster คือ Adobe PhotoshopCS , Paint
กราฟิกแบบ Vector เป็นภาพกราฟิกที่เกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาสตร์ หรือการคำนวณ ซึ่งภาพจะมีความเป็นอิสระต่อกัน โดยแยกชิ้นส่วนของภาพทั้งหมดออกเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง รูปทรง เมื่อมีการขยายภาพความละเอียดของภาพไม่ลดลง แฟ้มมีขนาดเล็กกว่าแบบ Raster กราฟิกแบบ Vector นิยมใช้เพื่องานสถาปัตย์ตกแต่งภายในและการออกแบบต่างๆ เช่น การออกแบบอาคาร การออกแบบรถยนต์ การสร้างโลโก้ การสร้างการ์ตูน เป็นต้น โปรแกรมที่นิยมใช้สร้างภาพแบบ Vector คือ โปรแกรม Illustrator, CorelDraw, AutoCAD, 3Ds mas เป็นต้น แต่อุปกรณ์ที่ใช้แสดงผลภาพ เช่น จอคอมพิวเตอร์หรือเครื่องพิมพ์จะเป็นการแสดงผลภาพเป็นแบบ Raster
ความแตกต่างของกราฟิกแบบ 2 มิติ
ภาพกราฟิก 2 มิติแบบ Raster และแบบ Vector มีความแตกต่างกันดังนี้
ภาพกราฟิก 2 มิติแบบ Raster และแบบ Vector มีความแตกต่างกันดังนี้
ภาพกราฟิกแบบ Raster | ภาพกราฟิกแบบ Vector |
1. ภาพกราฟิกเกิดจากจุดสีเหลี่ยมเล็กๆ หลากหลายสี (Pixels) มาเรียงต่อกันจนกลายเป็นรูปภาพ | 1. ภาพเกิดจากการอ้างอิงความสัมพันธ์ทางคณิตศาตร์หรือการคำนวณ โดยองค์ประกอบของภาพมีอิสระต่อกัน |
2. การขยายภาพกราฟิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้ความละเอียดของภาพลดลง ทำให้มองเห็นภาพเป็นจุดสี่เหลี่ยมเล็กๆ | 2. การขยายภาพกราฟิกให้มีขนาดใหญ่ขึ้นภาพยังคงความละเอียดคมชัดเหมือนเดิม |
3. การแต่งตั้งและแก้ไขภาพ สามารถทำได้ง่ายและสวยงาม เช่นการ Retouching ภาพ | 3. เหมาะกับงานออกแบบต่างๆ |
4. การประมวลผลภาพสามารถทำได้รวดเร็ว | 4. การประมวลผลภาพใช้เวลานาน เนื่องจากคำสั่งในการทำงานมาก |
ตัวอย่างภาพกราฟิกแบบ 2 มิติ
ตัวอย่างภาพกราฟิกแบบ 3 มิติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น